รีวิว Antebellum - หลอน ย้อน โลก
แค่ขึ้นชื่อว่าทีมผู้สร้างจาก Get Out และ Us มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนัง Antebellum หรือในชื่อไทยว่า แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก ใครที่เคยได้ดูหนังทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวมาก่อน ก็แทบอยากจะตีตั๋วล่วงหน้าไว้เลย แม้จริงๆ ผู้กำกับและเขียนบทจะเป็น เจอราร์ด บุช และ คริสโตเฟอร์ เรนซ์ ไม่ได้มีชื่อของ จอร์แดน พีล (ผู้กำกับ Get Out และ Us) ก็ตาม แต่ด้วยโทนของหนังที่มาในแบบหนังผิวสีเขย่าขวัญที่คล้ายๆ กัน ก็ยิ่งทำให้หนังน่าสนใจ ว่าครั้งนี้จะมีทีเด็ดอะไรมาขายให้คนดูได้ตื่นเต้นกันอีก รีวิว Antebellum
เรื่องย่อ
เรื่องราวที่วนเวียนอยู่รอบตัวของ เวโรนิกา เฮนลีย์ (Janelle Monáe/จาแนลล์ โมเน่ จากหนัง Moonlight, Hidden Figures) นักเขียนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในงานเขียนของตนเอง แต่เธอไม่เคยคิดว่าตนเองจะต้องไปติดแหง็กอยู่ในอีกเวลาหนึ่ง
ที่นั่นห่างจากเวลาปัจจุบันเป็นไกลมาก เธอต้องไปอยู่ในนิคมเกษตรกรรมแห่งหนึ่ง ที่ควบคุมด้วยคนขาว มีกลุ่มทหาร มีไร่ฝ้าย ที่นั่นคนผิวดำถูกใช้อย่างทาส ไม่ได้อย่างใจก็ทำร้ายด้วยวิธีต่างๆ
เมื่อนักเขียนคนผิวสีที่มีชีวิตที่ดูเพอร์เฟกต์ มีสามีและมีลูกน้อยที่น่ารัก อาชีพการงานก็ดูจะไปได้สวย แล้วเหตุใดเธอจึงถูกดึงกลับไปอยู่ในโลกที่คนผิวดำยังคงเป็นทาส
ผลงานที่ชูหน้าด้วยทีมสร้างจาก Get Out และ Us ของผู้กำกับ จอร์แดน พีล ซึ่งเด่นในเรื่องสไตล์ความหลอนแบบดราม่าจิตวิทยาผสมความสยองแบบหนาวสันหลังด้วยเรื่องราวเหนือจินตนาการ
ซึ่งมักดึงความกลัวในใจคนออกมาโดยเฉพาะจากกลุ่มของชาวแอฟริกันอเมริกันที่ถูกความเหลื่อมล้ำทางสีผิวในอเมริกาเล่นงานมาเป็นร้อย ๆ ปีจนถึงปัจจุบันกับกระแส Black Lives Matter ซึ่ง Antebellum ก็ใช้ไอเดียการดึงความกลัวในใจคนผิวดำไม่ว่าจะกี่ยุคต่อกี่ยุคมาใช้ได้อย่างเข้มข้นทีเดียว
ทั้งนี้เป็นฝีมือการกำกับและจินตนาการจากคู่หูผู้กำกับมือใหม่นามว่า เจอราร์ด บุช และ คริสโตเฟอร์ เรนซ์ ที่ผ่านงานสารคดี โฆษณาและวิดีโอสั้นมาหลายชิ้นก่อนได้รับความไว้วางใจทำหนังใหญ่เรื่องแรกนี้ แต่ทีมสนับสนุนเองก็แข็งแกร่งพอให้สองผู้กำกับบรรเลงฝีแปรงได้ตามต้องการ
ไม่ว่าจะเป็น เปโดร ลัค ผู้กำกับภาพจากหนัง Don’t Breathe (2016) และ The Girl in the Spider’s Web (2018) มาใช้ประสบการณ์ภาพหลอนยะเยือกที่เปิดมาด้วยลองเทคโชว์ความเก่าได้น่าสนใจทีเดียว และการปล่อยให้ผู้กำกับได้ปล่อยของเต็มที่เพราะไม่ต้องห่วงทีมหนุนก้ทำให้หนังเรื่องนี้มีของเด็ดของดีให้ตรึงใจได้ไม่น้อยเลย
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Antebellum กล่าวถึงเอเดน (จาแนลล์ โมเน่) หญิงสาวที่ถูกจับมาเป็นทาสของคนผิวขาวในไร้ฝ้ายแห่งหนึ่ง ณ ที่นั่นเธอพบคนผิวสีอีกจำนวนมากมายที่ถูกใช้งานเยี่ยงกับสัตว์ เธอยังต้องรับมือกับนายจ้างผิวขาวที่ไร้ความปราณีและพร้อมจะใช้ความรุนแรงในทุกวิถีทางเพื่อกดขี่คนผิวสี
หนังใช้เวลาดูหนังฟรีกว่า 30 นาทีแรกในการเล่าเรื่องของนิคมไร่ฝ้าย เผยให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานทาส การถูกกดขี่ข่มเหงรวมไปถึงการถูกล่วงละเมิดทางเพศในแบบที่เราไม่อาจจะจินตนาการถึง ท่ามกลางการเผยให้เห็นความรุนแรงของสังคมไร่ฝ้ายแห่งนี้
จุดเชื่อมโยงสำคัญคือเอเดน ที่เมื่อผ่านช่วงกลางเรื่องไปแล้ว ผู้ชมก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความพิศวงและสิ่งเชื่อมโยงบางประการระหว่างเอเดนและหญิงสาวที่ชื่อเวโรนิก้า (จาแนลล์ โมเน่)
เวโรนิก้าคือนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่ต่อสู้ในเรื่องของสิทธิของคนผิวสี เพศ และการถูกกดขี่ของคนผิวดำในประเทศอเมริกา เธอมีผลงานหนังสือในระดับเบสเซลเลอร์ ความสามารถรอบด้านของเธอในฐานะผู้หญิงเก่ง ที่คอยดูแลสามีและลูกน้อยแบบไม่มีขาดตกบกพร่อง
จนกระทั่งวันหนึ่งเธอมีงานที่จะต้องบินไปบรรยายพิเศษที่รัฐนิวออร์ลีนส์ ณ ที่นั่นเองเธอเริ่มสัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ประหลาดและการถูกคุกคามอย่างลึกลับจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่ออลิซาเบธ (จีน่า มาโลน) ผู้อ้างตัวว่าเป็นเอเจนซีในการจัดหางานที่เริ่มเข้ามาในชีวิตของเวโรนิก้าเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
การเล่าเรื่อง
หนังเล่าเรื่องหนังออนไลน์ของ เวโรนิกา เฮนลีย์ ที่ยุคหนึ่งเธอคือคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในชีวิต การศึกษาดี ครอบครัวอบอุ่น เป็นผู้นำการเคลื่อนไหวทางสังคม ต่อต้านการเหยียดผิวและเรียกร้องสิทธิอันเท่าเทียมในสังคม
แสดงโดย จาแนลล์ โมเน่ (Moonlight, Hidden Figure) แต่ชีวิตอีกยุคเธอมีชื่อ อีเดน ทาสที่ถูกใช้แรงงานหนักและถูกทารุณสารพัด ในยุคสงครามกลางเมืองของอเมริกา ที่นำคนผิวดำมาใช้แรงงาน ที่ไม่ต้องถามเลยว่าคุณภาพชีวิตย่ำแย่ขนาดไหน แล้วทำไมหรืออะไรที่ทำให้เธอมีบทบาทใน 2 ยุคนี้ นี่คือคำถามที่ต้องไปหาคำตอบกันในโรงภาพยนตร์
เช่นเดียวกับ Get Out และ Us หนังค่อยๆ เล่าเรื่องราว ค่อยๆ เผยข้อมูล สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ มันไม่ได้น่ากลัว แต่มันน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ทั้งในยุคปัจจุบันและยุคสงครามกลางเมือง หนังอาศัยชั้นเชิงการนำเสนอในแบบที่ทำให้นึกถึงหนังของผู้กำกับที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน
วิธีการที่ใช้อาจไม่ได้สดใหม่ แต่การสร้างบรรยากาศชวนอึดอัดและสถานการณ์ของเรื่องที่ไม่น่าไว้ใจ ก็สามารถกระตุ้นให้อยากติดตามได้ตลอด แถมยังมีไฮไลต์เด็ด! ตบหน้าคนดูฉาดใหญ่ เมื่อหนัง “หักมุม” ใส่คนดูอย่างร้ายกาจ อึ้งไปกับเหตุการณ์ในหนังและทึ่งกับความคิดของทีมผู้สร้าง ที่ดูเหมือนง่ายเมื่อรู้ทุกอย่างแล้ว เป็นลูกเล่นชั้นเชิงการเล่าเรื่องและนำเสนอที่ได้ผล
ให้บังเอิญว่าหนัง Antebellum แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำและประเด็นผิวสี Black Lives Matter อันเป็นประเด็นร้อนบนพื้นที่สหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ซึ่งหนังก็เป็นตัวสะท้อนสังคม พาไปให้เห็นว่าแม้จะผ่านกาลเวลามานานแค่ไหน การต่อสู้ดังกล่าวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง
การนำเสนอ
หนังถ่ายทอดการกดขี่ เอารัดเอาเปรียบ ของชนชั้นนำที่กดชนชั้นล่างที่มีมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้อย่างสะเทือนใจ จนไม่อาจมองว่าชนชั้นนำนั้นคือคนได้ มันไร้ซึ่งหัวจิตหัวใจของความเป็นคน มันทำให้เราตระหนักว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือปัจจุบัน
หนังนำเสนอตรงนี้ได้ดีมากๆ จนเอาใจช่วยให้สามารถหาเอาคืนหรือหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์แย่ๆ นี้ไปให้ได้ ในแบบที่ไม่แตกต่างจากที่เราเคยเชียร์ตัวเอกใน Get Out และ Us
ในแง่ของความระทึกขวัญสยองขวัญนั้น Antebellum จัดได้ว่าแทบจะปราศจากความรู้สึกแบบนั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ในแง่ของประเด็นเรื่องดราม่าระหว่างผิวสีนั้น หนังจัดได้ว่าทำได้เข้มข้นและอำพรางร่องรอยที่นำไปสู่ช่วงเวลาแห่งการหักมุมได้อย่างแนบเนียน
ปัจจัยหนึ่งคงต้องบอกว่าหนังเลือกใช้เทคนิคทางภาพยนตร์อย่าง “การตัดต่อ” เอามาหลอกคนดูได้อย่างเฉียบแหลม และหลายครั้งหนังก็พยายามชี้นำคนดูด้วยซ้ำไปว่านี่คือหนังแนว “การกลับชาติมาเกิด” หรือเปล่า อาทิการโคลสอัพรอยแผลเป็นจากการโดนตีตราของเอเดนและนำเสนออาการปวดหลังในจุดเดียวกันของเวโรนิก้า เป็นต้น
จุดเด่น
ความสำเร็จของหนังอีกประการต้องยกให้เดอะแบก จาแนลล์ โมเน ดาราสาวที่หน้ามีเสน่ห์ไม่น้อย จากหนังอย่าง Moonlight และ Hidden Figure ที่สะท้อนความกลัว ความกล้า และการซ่อนเร้นความอับจนหนทางไว้ได้อย่างชวนอินในทุกซีน
ส่วนนักแสดงประกอบคนอื่นไม่ใช่ว่าไม่ดี เพราะหนุนเรื่องได้น่าสนใจโดยเฉพาะเหล่าตัวร้ายทั้งหลายเล่นได้น่าหมั่นไส้ ตั้งแต่แก่ยันเด็กเลยทีเดียว แต่ภาพรวมอย่างไรก็ตามคงต้องยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังของ โมเน จริง ๆ นั่นล่ะ
สำหรับตัวหนังนำคำที่ว่า “อดีตมันไม่เคยตาย มันไม่ใช่อดีตเสียด้วยซ้ำ” ของเช็กสเปียร์มายั่วล้อได้น่าสนใจ ซึ่งจริง ๆ ก็ค่อนข้างแปลกที่แปลไทยเช่นนี้ แต่สุดท้ายเมื่อดูหนังจบมาทบทวนคำพูดตอนต้นของหนัง
ก็ทำเอาตบเข่าฉาดเลยเหมือนกัน ว่าไปหนังมีความคล้ายหนังเรื่องหนึ่งซึ่งหากพูดชื่อไปก็จะสปอยล์ตัวหนังนี้ทันที เอาเป็นว่าสองผุ้กำกับเอาไอเดียเรื่องนั้นมาปั่นเรื่องความกลัวของผิวสีได้เฉียบคมมาก บทมีความลักลั่นสั่นประสาทอยู่ตลอด
ปมต่างๆ
ข้อติงก็คงมีว่าด้วยโครงสร้างที่ออกแบบไว้ให้มันทำงานสำเร็จ จำเป็นต้องเสียสละเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแรกให้กับการปูพื้นดราม่า จนเราสงสัยว่า เอ่ ที่ดูในตัวอย่างเรื่องเหนือธรรมชาติย้อนอดีตมันมีอยู่จริง ๆ หรือแค่หน้าหนังหลอกเราอีกแล้ว
ทว่าสุดท้ายหนังก็ใช้ประโยชน์จากครึ่งชั่วโมงแรกได้ชะงัด เป็นเหมือนการชม One Cut of the Dead ที่ครึ่งหลังเฉลยแล้วอาจไม่ได้ความฮา หากแต่เป็นความสยอง เศร้า อย่างไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เคยกระทำกับมนุษย์ได้เพียงนี้เลย
หรือความรุนแรงนั้น ถูกยอมรับในอดีตมากกว่าปัจจุบันได้จริงหรือ และลบล้างความโรแมนติกในบทละครอย่าง ทวิภพ ไปแบบสิ้นเชิง ว่าในโลกความจริงมณีจันทร์ย้อนเวลาไปคงกลายเป็นทาส และบทหวานของคุณพระคงกลายเป็นแส้ฟาดและลูกปืนแทน
โดยรวม
อย่างไรก็ตาม Antebellum ก็ยังทำหน้าที่ในแนวทางหนังของตัวเองได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะตัวหนังเองก็บกพร่องในแง่ของการเร้าอารมณ์ผู้ชม ช่วงแรกของหนังเนิบช้าจนเสียเวลาถ้าใครสมาธิไม่ค่อยจะสู้ดีอาจจะผล็อยหลับไปได้แบบง่ายๆเลยด้วยซ้ำไป
สรุป
นี่คือหนึ่งในหนังที่ก่อนจะไปดู ควรรู้ให้น้อยและเข้าใจให้น้อยมากที่สุด แค่ตัวอย่างข้างต้นก็เพียงพอ หรือหากเป็นคนที่ซีเรียสขั้นสุด แม้แต่รีวิวนี้ก็ควรจะหยุดอ่าน แล้วไปดูหนังเสียก่อน ค่อยกลับมาเจอกัน
PGSLOT หมุนวงล้อฟรี เเจกหนัก จ่ายเต็มรางวัลใหญ่มากมายไม่มีกั๊ก เเค่สมัครเข้ามาร่วมบันเทิงใจ ไปเกี่ยวกับสล็อตของเว็บพวกเรา รางวัลใหญ่จะอยู่ใกล้เเค่เอื้อม ผู้คนจำนวนมากสงสัยว่า ในการหมุนวงล้อฟรีมีใช่หรือไม่
ทดลองเล่นสล็อต pg slot ฟรีทุกค่าย 2022 เว็บไซต์สล็อตที่อัพเดทเกมใหม่มาแรงก่อนใคร ทดลองเล่นสล็อตเว็บไซต์ตรง พวกเราเสนอแพลตฟอร์ม เกมสล็อตออนไลน์ ที่มีความสดใหม่มาแรง pg slot ทดลองเล่น