Love You Forever

รีวิว Love You Forever - ย้อนรัก ให้ยัง มีเธอ

ช่วงนี้มีหนังจากจีนแผ่นดินใหญ่ทยอยเข้าฉายเมืองไทยแบบไม่เคยปรากฎมาก่อน อย่างสัปดาห์ก่อนก็มี Vanguard ที่นำโดยเฉินหลงหรือจะย้อนกลับไปไม่กี่เดือนก่อนก็มีแอนิเมชันอย่าง White Snake ที่โชว์ถึงวิทยาการและเทคโนโลยีของจีนที่พร้อมพรั่งต่อการผลิตงานระดับฮอลลีวูดแถมในสัปดาห์นี้ก็จะมี 800 ซึ่งเป็นหนังจีนแนวสงครามจะเข้าฉายกันอีก และยิ่งในโมงยามที่หนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์พากันอกสั่นขวัญแขวนกับ COVID-19 ในสัปดาห์นี้กลับมี หนังโรแมนติกพลอตชะลอวัยย้อนเวลามาเติมเต็มโปรแกรมฉายให้หลากหลายกันซะงั้น รีวิว Love You Forever

เรื่องย่อ

หลินเก๋อ (หลี่หงฉี) ชายหนุ่มหัวทื่อที่หลงรัก ชิวเชี่ยน (หลี่อี้ถง) สาวนักเต้นผู้หวังจะผลักดันตัวเองไปสู่เวทีระดับโลกแต่โชคร้ายที่เธอต้องประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต และในโมงยามที่โลกมืดมนที่สุดหลินเก๋อก็ได้พบความสามารถของตนที่สามารถย้อนเวลาไปก่อนเกิดเหตุได้หนึ่งวันแต่ตัวเขาจะต้องแก่ขึ้นและชิวเชี่ยนรวมถึงคนอื่น ๆ รอบตัวก็จะจำเขาไม่ได้ สุดท้ายหลินเก๋อจะเลือกโกงชะตาชีวิตแล้วยอมไร้ตัวตนบนโลกใบนี้เพื่อคนที่ตัวเองรักหรือจะปล่อยให้ชะตากรรมทำให้เขาต้องสูญเสียเธอไปตลอดกาล ?

---

ถือเป็นภาพยนตร์รักกระแสแรงแห่งปีสำหรับภาพยนตร์ “Love You Forever ย้อนรัก ให้ยัง มีเธอ” ภาพยนตร์โรแมนติกย้อนเวลาที่สร้างจากนิยายดังที่สร้างปรากฏการณ์มากมายในจีน หนังเข้าฉายในจีนช่วงวันเทศกาลแห่งความรักของจีน (เทศกาลซีซีเจ๋ย) ซึ่งตรงกับวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา

และทำรายได้สูงสุดในวันแรกที่เข้าฉายไปถึง 272 ล้านหยวน ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดของภาพยนตร์จีนที่เคยเข้าฉายในช่วงเทศกาลนี้ โดยสื่อมวลชนในไทยต่างยกให้นี่คือภาพยนตร์โรแมนติกแห่งปีที่จะทำให้คุณเห็นคุณค่าของเวลามากกว่าทุกวัน

เนื้อเรื่อง

หลินเก๋อ (หลี่หงฉี) ชายหนุ่มหัวทื่อที่หลงรัก ชิวเชี่ยน (หลี่อี้ถง) สาวนักเต้นผู้หวังจะผลักดันตัวเองไปสู่เวทีระดับโลกแต่โชคร้ายที่เธอต้องประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต และในโมงยามที่โลกมืดมนที่สุดหลินเก๋อก็ได้พบความสามารถของตนที่สามารถย้อนเวลาไปก่อนเกิดเหตุได้หนึ่งวัน

แต่ตัวเขาจะต้องแก่ขึ้นและชิวเชี่ยนรวมถึงคนอื่น ๆ รอบตัวก็จะจำเขาไม่ได้ สุดท้ายหลินเก๋อจะเลือกโกงชะตาชีวิตแล้วยอมไร้ตัวตนบนโลกใบนี้เพื่อคนที่ตัวเองรักหรือจะปล่อยให้ชะตากรรมทำให้เขาต้องสูญเสียเธอไปตลอดกาล ?

การดำเนินเรื่อง

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงของหนัง อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรักนับตั้งแต่วินาทีที่เปิดฉากออกมา กลายเป็นข้อดีที่โดดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่สามารถรักษาระดับโทนความรักเชิงโรแมนซ์เอาไว้ได้แบบการ์ดไม่ตก

และไม่ไดทำให้คนดูรู้สึกเอียนกับความรักที่แสดงออกมาจากตัวละครทั้ง 2 คน โดยเรื่องราวยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นแฟนตาซี ที่อาจจะเป็นจุดด้อยที่มาฉุดทำให้หนังที่มีโทนกำลังดีต้องเสียคะแนนไป เพราะความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆ อย่าง ที่พลอยทำให้หนังดูขาดๆ เกินๆ ไปอย่างประหลาด

บอกตามตรงเลยดูหนังฟรี พอได้ข้อมูลว่าหนังสร้างจากนิยายขายดีของจีนก็พอเดาออกว่ามันจะต้องออกมาน้ำเน่าแน่ ๆ และมันก็จริง Love you forever เดิมตามสูตรสำเร็จของหนังและนิยายโรแมนติกทุกประการ

ว่าด้วยตัวเอกที่บูชาความรักจนยอมเสียสละทุกอย่างได้แม้แต่ชีวิตและตัวตนของตัวเองพร้อมกับเรื่องราวความรักความฝันและการก้าวข้ามวัยหรือ Coming of Age ที่หนังฮอลลีวูดต่างทำมาจนเฝือแล้ว

มิพักต้องพูดถึงหนังโรแมนติกแนว ๆ กลับมาหาคนรักหรือทำเพื่อคนรักสำหรับวัยรุ่นยุค 90s อย่างผมก็ผ่านหนังจีน-ฮ่องกงมาทั้ง Fly Me To Polaris (1999, ขอเพียง 5 วันให้ฉันรู้หัวใจเธอ) และ Tiramisu (2002, 7 วัน จากฉัน จากเธอ)

ที่ต่างก็สร้างความประทับใจมาแล้ว แต่พอได้มาดู Love you forever หนังจีนแผ่นดินใหญ่ก็ยอมรับว่ามันช่วยให้หายคิดถึงหนังรักดี ๆ พร้อมนางเอกหน้าตาน่ารักและพลอตชวนซึ้งแบบนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

จุดเด่น

โดยความดีประการแรกคือการตีความเป็นงานภาพของผู้กำกับอย่าง เหยาถิงถิง ที่จะเห็นความฉลาดของการดัดแปลงจากฉากอ้างอิงในหนังฮอลลีวูดดัง ๆ มาปรับใช้ได้อย่างเหมาะเจาะทั้งขนนกของ Forest Gump (1994) ในฉากเปิดเรื่องที่หนังดัดแปลงเป็นเกสรดอกไม้เพื่อพาเราย้อนเวลากลับไปหาจุดเริ่มต้นของเรื่อง

หรือการดัดแปลงฉากย้อนเวลาที่แอบมีองค์ประกอบของ Butterfly Effect (2004, เปลี่ยนตายไม่ให้ตาย) ก็ทำให้หนังเต็มไปด้วยลูกเล่นด้านภาพนอกเหนือจากงานถ่ายภาพของหนังที่งดงามชวนมองอยู่แล้ว

อีกประการสำคัญคืองานแสดงของทั้ง หลี่อี้ถง และ หลี่หงฉี ที่เคมีต้องกันอย่างน่าประหลาด ซึ่งสำหรับ หลี่อี้ถง หน้าตาน่ารักของเธอคงเป็นอีกประการที่ทำให้คนดูไม่อยากวางตาจากหน้าจออยู่แล้วแต่ใครจะคิดว่าฝีมือทางการแสดงของเธอจะจับหัวใจคนดูได้อยู่หมัดขนาดนี้

ทางด้านนางเอกของเรื่อง หลี่อี้ถง ก็เป็นหญิงสาวชาวจีนที่ละสายตาไปไม่ได้ แม้จะเป็นสูตรสำเร็จสไตล์นางเอกจีน สวยหวานน่ารัก แต่เธอก็มาพร้อมกับอินเนอร์ที่พร้อมจะทำลายล้างคนดูได้

และเมื่อคู่พระนางโคจรมาอยู่บนเฟรมด้วยกันเมื่อไหร่ ความสมบูรณ์แบบเชิงโรแมนซ์ของหนังได้ตอบโจทย์ออกมาอย่างชัดเจน และทำให้หนังรักเรื่องนี้ยกระดับความอินและฟินส่งไปหาคนดูแบบตรงๆ ได้อย่างอยู่หมัด

หนังใหม่ชนโรง ยังมีการใช้โลเคชั่นที่ขับเคลื่อนอินเนอร์โทนหนังได้ดีอีกทางหนึ่ง ด้วยการปักหลักอยู่ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ที่ได้ชื่อว่ามีฉากหลังที่ค่อนข้างโรแมนซ์อยู่ในตัวสูง

จุดด้อย

แม้ใจยอมรับว่ามันเป็นที่ทำออกมาอย่างตั้งใจ หมายมั่นปั้นมือมาเต็มที่จะเก็บคะแนนจากผู้ชมอย่างเต็มอิ่ม ตีตั๋วเข้ามาแล้วต้องเสียน้ำตาเปียกเบาะกันทุกคน ซึ่งไม่อาจเถียงได้เลยว่าหนังทำอย่างนั้นได้จริงๆ แต่ก็มีบางส่วนที่รู้สึกตะขิดตะขวงอยู่บ้างในระหว่างดู

เรื่องราวที่เล่าเล่นกับเส้นเวลานั้นต้องใช้ความละเอียดถ้วนถี่ในการเล่า แม้ทุกอย่างจะดูไหลลื่นแต่ก็ยังพอพบว่ามีช่องโหว่อยู่บ้าง พอให้รู้สึกเอ๊ะในใจแล้วเมื่อปล่อยใจไปกับเรื่องราว ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปโฟกัสที่ความสัมพันธ์และจุดลงเอยของหนังแทน

อีกจุดหนึ่งก็คือความพยายามจงใจของบทหนังในฉากย่อยๆ แต่ละฉาก บางครั้งอาจจะรู้สึก เอาแบบนี้ก็ได้เหรอ เหมือนคนพยายามจะมีสิ่งนี้ในหนังก็จัดเข้ามาให้มี เช่นอยากมีฉากตัวละครถีบจักรยาน จักรยานก็โผล่มาให้ตัวละครคว้าไปขี่เป็นต้น

ความขัดใจอีกประการ คงหนีไม่พ้นการเมกอัปหนวดปลอมและหน้าเหี่ยวที่ดูปลอมไปหน่อยแต่หากพูดถึงการแสดงเขาคือหัวใจหลักของความสะเทือนใจในเรื่องราวได้เป็นอย่างดีจนตลอดเวลา 115 นาที คือช่วงเวลาที่คนดูต่างยอมเสียน้ำตาให้กับหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ของเขาแม้หน้าตาพระเอกอย่างเขาจะแพ้ จางเชา ผู้รับบท อู๋ต้า พระรองที่หล่ออย่างกับโอปป้าก็ตาม

โดยรวม

ตามที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นแล้วว่า ประเด็นเรื่องราวแฟนตาซีที่หนังสอดแทรกเข้ามานั้น กลับกลายเป็นเพียงประเด็นเสริมไปเสียอย่างนั้น เพราะหนังแทบจะไม่ได้ใส่ใจลงรายละเอียดใดๆ กันาฬิกาเดินข้ามเวลาที่ถูกหยิบมาใช้เป็นอุปกรณ์เชื่อมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

กลายเป็นว่าประเด็นหลักที่ควรจะเป็น ดันถูกลืมไปเสียอย่างนั้น แต่อาจจะเป็นเพราะพลังเคมีของคู่พระนางและความอบอวลในความรักของตัวละครมากกว่า ที่ส่งพลังมากลบเรื่องนี้เกือบมิดเลย

หากจะถามหาถึงความสมเหตุสมผลในหนัง...คงต้องบอกว่าไม่มีเท่าไหร่ แต่คุณจะได้รับเซอร์วิสความโรแมนติกแบบเต็มๆ จะว่าไปก็ไม่ได้เสียอรรถรสใดๆ เพราะหน้าหนังก็จัดได้ว่าเป็นหนังรักแฟนตาซีอยู่แล้ว ถ้าต้องการจะไปหาเสพหนังรักก็น่าจะตอบโจทย์ได้แบบเต็มๆ และกลายเป็นหนึ่งในหนังจีนที่ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างละมุนละไมและทำให้คนดูอินถึงเนื้อหาได้ไม่ยาก

สรุป

แม้ Love You Forever จะเต็มไปด้วยช่องโหว่และรอยรั่วเต็มไปหมด แต่หนังก็สามารถอุดรอยต่างๆ นั้นไปได้ด้วยโทนของหนังที่ตรึงใจได้ไม่ยาก จนบางครั้งคนดูก็มองข้ามความผิดแปลกในหนังเรื่องนี้ไป

ย้อนรักให้ยังมีเธอ จึงได้กลายเป็นอีกหนึ่งหนังรักแห่งปีที่สร้างความประทับใจให้กับคนดู แม้ว่าโดยรวมพล็อตจะถูกเกินจริงและแฝงด้วยสูตรสำเร็จเต็มไปหมด

แต่ต้องยอมรับว่าการขับเคลื่อนตัวนักแสดงที่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์ที่ได้รับบทบาทมีส่วนเพิ่มคุณค่าในตัวหนังขึ้นมาได้เยอะ ดังนั้นจะบอกได้ว่า Love You Forever เป็นหนังรักที่ควรค่าแห่งปี 2020 ก็คงจะไม่น่าเกลียดอะไรเลย