Racket Boys

รีวิว Racket Boys - แร็กเก็ต บอยส์

มานั่งมองดูบล็อกตัวเอง ให้รู้สึกว่า ในเชิงซีรีส์เกาหลีด้านกีฬานี่ ผมไม่ค่อยได้เยื้องกรายเข้าไปเยี่ยมเยือนสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่า วันนี้ ขอหันเหมาสนใจมันดูสักเรื่องก็แล้วกัน หลังมีซีรีส์เรื่องใหม่ที่เพิ่งเริ่มออนไลน์ไปได้ไม่นาน ผลงานจากผู้กำกับ โจยองกวัง จากซีรีส์ Heart Surgeons และ Defendant ซึ่งผมยังไม่เคยได้ดู แต่เรื่องนี้เขียนบทโดย จองโบฮุน คนที่เขียนบทให้กับซีรีส์ Prison Playbook ทำให้รู้สึกว่าความอยากดูมันพุ่งพรวดขึ้นมาเลย รีวิว Racket Boys

เรื่องย่อ

ซีรีส์บอกเล่าถึงการเป็นโค้ชทีมแบดมินตันเยาวชนประจำโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งของ รายองจา (รับบทโดย โอนารา) เธอเป็นโค้ชที่มีพรสวรรค์และมีลูกทีมประกอบไปด้วยเด็กอายุ 16 ปีทั้งชายและหญิง สมาชิกในทีมยังเล่นกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทุกคนเริ่มเติบโตขึ้นเมื่อได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชน

---

มานั่งมองดูบล็อกตัวเอง ให้รู้สึกว่า ในเชิงซีรีส์เกาหลีด้านกีฬานี่ ผมไม่ค่อยได้เยื้องกรายเข้าไปเยี่ยมเยือนสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่า วันนี้ ขอหันเหมาสนใจมันดูสักเรื่องก็แล้วกัน หลังมีซีรีส์เรื่องใหม่ที่เพิ่งเริ่มออนไลน์ไปได้ไม่นาน

Racket Boys ซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อไทยแบบทับศัพท์ไปเลยตรงๆ ว่า แร็กเก็ต บอยส์ มันเล่าเรื่องของเยาวชนกลุ่มหนึ่งกับกีฬาแบดมินตัน น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันนะ ไม่ค่อยมีใครเล่าเรื่องกีฬานี้กันน่ะ

ผลงานจากผู้กำกับ โจยองกวัง จากซีรีส์ Heart Surgeons และ Defendant ซึ่งผมยังไม่เคยได้ดู แต่เรื่องนี้เขียนบทโดย จองโบฮุน คนที่เขียนบทให้กับซีรีส์ Prison Playbook ทำให้รู้สึกว่าความอยากดูมันพุ่งพรวดขึ้นมาเลย

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวของอดีตนักแบดมินตัน ที่ปัจจุบันคือโค้ชทีมแบดมินตันเยาวชนโรงเรียนมัธยมเธอมีชื่อว่า รายองจา แม้ว่าโค้ชอย่างเธอจะเป็นถึงอดีตนักแบดมินตันเหรียญทองตำนานของวงการแบดมินตันและมีความกระตือรือร้นที่จะให้ทีมที่เธอดูแลอยู่ไปไกลเหมือนอย่างเธอ นั่นคือพาเด็ก ๆ สมาชิกในทีมของเธอทั้ง 16 เข้าแข่งขันแบดมินตันระดับทีมชาติ

แม้ความสารถของพวกเขายังไม่ถึงขั้นนั้นเพราะขาดการฝึกฝน แต่เมื่อได้เธอมาเป็นโค้ชให้กับทีมพวกเขาก็ค่อย ๆ พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีกำลังใจจากโค้ชคนเก่งอย่างรายองจา และรวมดูหนังฟรีถึงโค้ชหนุ่มอีกคนอย่าง ยุนฮยอนจง ที่ก็เป็นอดีตนักแบดมินตันทีมชาติเลยทีเดียว

นักแสดง

โอนารา รับบทเป็น รายองจา

ตำนานนักแบดมินตันผู้เคยคว้าเหรียญทองในกีฬาเอเชียนเกมส์ ผันตัวมาเป็นโค้ชผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพาเยาวชนไปสู่เส้นทางของแชมป์เหมือนอย่างที่เธอเคยเป็น เธอมีบุคลิกที่ค่อนข้างแตกต่างจากโค้ชคนอื่น ๆ นั่นคือจะสวมสูทเรียบร้อยแมนการใส่ชุดวอร์ม เธอมีฉายาที่คนเรียกกันว่า รานอส ที่ผันมาจาก ธานอสนั่นเอง เพราะบุคลิกที่ดูน่าเกรงขามของเธอนั่นเอง

คิมซังคยอง รับเป็นบท ยุนฮยอนจง

โค้ชสโมสรแบดมินตัน ผู้ที่มักจะทำตัวเหมือนเป็นพ่อของเด็ก ๆ ในทีมอยู่เสมอและตลอด 365 วันเขาจะสวมใส่ชุดวอร์มสีดำอยู่ตลอดเวลาแม้แต่เวลานอนก็ตาม เขามักจะถูกชายของเขา แฮตัง เมินใส่เขาอยู่เสมอแต่เข้าก็จะพยายามเข้าหาลูกชายด้วยการแสดงความเป็นเพื่อนมากกว่าเป็นพ่อเพื่อให้ลูกชายสนใจเขา

ทังจุนซัง รับบทเป็น ยุนแฮคัง

หนุ่มนักกีฬาเบสบอลที่ต้องย้ายจากโซลมาที่คังชอนพร้อมกับพ่อของเขา ยุนฮยอนจง หลังจากย้ายมาที่คังชอบ เขาก็เริ่มเล่นแบดมินตัน เป็นวัยรุ่นใจร้อนที่มักโมโหง่าย แต่เขามักจะฝืนเข้มแข็งทั้งที่ข้างในอ่อนแอ

ซนซังฮยอน รับบทเป็น บังยุนดัม

เด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากจะมี follower บน Instagram ครบ 100,000 follower เขาชื่นชอบการ เขามักจะถือโทรศัพท์อยู่ในมือตลอดเวลา นอกจากนี้เจายังเป็นกัปตันทีมของชมนมแบดมินตันอีกด้วย เพราะเขามีความเป็นผู้นำสูงเนื่องจากเขาเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน

ชเวฮยอนอุค รับบทเป็น นาอูชาน

ราชาฮิปฮอปแห่งโรงเรียนมัธยมแฮนัม เป็นคนละเอียดอ่อนมักคอบเป็นสื่อกลางในการผสานรอยร้าวในทีม แต่สำหรับฝีมือการเล่นแบดมินตันของเจาอยู่ในขั้นที่ค่อย ๆ ถดถ้อยลงเรื่อย ๆ เพราะพ่อของเขาไม่พอใจที่เขามาเป็นนักกีฬาแบดมินตัน เพราะพ่อของเขาอยากให้เขาเป็นทหารรับใช่ชาติมากกว่า

คิมคังฮุน รับบทเป็น อียองแท

เด็กหนุ่มผู้ที่เป็นคนพูดมาก นั่นเพราะข้อมูลในหัวของเขานั้นเยอะมาก ไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้จัก เขามีไอดอลรุ่นพี่ที่เป็นนักกีฬาเช่นกันคือ อียองแด แถมยังเขาพยายามจะเลียนแบบไอดอลของเขาเกือบทุกอย่าง ซึ่งผิดกับฝีมือการเล่นของเขาที่ไม่ค่อยพัฒนาเลย

อีแจอิน รับบทเป็น ฮันเซยุน

เด็กสาวผู้ที่เล่นแบดมินตันมาตั้งแต่เด็ก และมีความใฝ่ฝันที่จะกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมชาติที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติ ทำให้เธอเป็นคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจฝึกเป็นอย่างมาก เธอไม่สนอะไรบนโลกทั้งนั้นนอกจาก แบดมินตัน

อีจีวอน รับบทเป็น อีฮันซอล

เด็กสาว ม.ปลายผู้ที่มีสิ่งที่อยากจะทำมากมาย เป็นผู้สนใจรูปร่าง หน้าตา รูปลักษณ์และเรื่องราวของดารา มักจะมีท่าท่าง คำพูด น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเมื่อเธอได้เจอหนุ่มหล่อเข้า และเธอยังเป็นเพื่อนคู่หูกับ ฮันเซยุน มาทั้งหมด 3 ปีแล้ว

การดำเนินเรื่อง

เป็นซีรีส์ที่เหมาะแก่การดูในช่วงนี้อย่างมาก เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการ กีฬา ความฝัน เพื่อน ครอบครัว พูดง่าย ๆ เป็นซีรีส์แนวอบอุ่น เบาสมองพักจากการปวดประสาทกับซีรีส์เนื้อเรื่องหนัก ๆ เรื่องอื่น ๆ องค์ประกอบโดยรวมทุกอย่างในซีรีส์หนังออนไลน์ก็ออกแนวอบอุ่น ๆ ทั้งโทนสีภาพ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของนักแสดงไม่เน้นสีฉูดฉาด

ที่มองยังไงก็สบายตาไปหมดทำให้ได้พักสายตา พักสมองจากซีรีส์เครียด ๆ หรืออากาศเครียดอย่างอื่นด้วยนั้นเอง และมีข้อคิดการใช้ชีวิต มุมมองชีวิตต่าง ๆ แทรกอยู่ในคำพูดของตัวละครทั้ง 2 ตอนที่ดูมาเลย ไม่ว่าจะเป็นสังคมคนเมืองกับสังคมชนบท หรือจะเป็น ความคิดของผู้ใหญ่กับความคิดของวัยรุ่น

ส่วนตัวเราชอบ คิมคังฮุน ที่รับบทเป็นอียองแท ถึงแม้ว่าน้องจะอายุยังน้อยแต่ถือเป็นนักแสดงเด็กอีกคนที่มีความสามารถมาก ๆ เพราะน้องถ่ายทอดตัวละครที่แสดงออกมาได้ดี อีกอย่างที่ชอบเลยเพราะน้องน่ารักมาก อนาคตคงไม่พ้นตำแหน่งพระเอกแน่ ๆ แล้วก็ชอบฉากเวลาที่ทีมแบดมินตันโรงเรียนแฮนัมอยู่ด้วยกัน

อาจมีปากมีเสียงกันบ้างแต่เป็นเรื่องธรรมดาของกลุ่มเพื่อน มันดูอบอุ่น สนุก สามัคคี ในตอนต่อ ๆ ไปเชื่ออาจะต้องมีเรื่องราวความดราม่าของตัวละครอยู่บ้าง อย่างเช่น ยุนแฮคังที่เลือกจะเล่นเบสบอลและไม่อยากเล่นแบดมินตัน แต่เชื่อว่าคงไม่ดราม่าถึงกับทำให้เราต้องปวดหัวปวดตับแน่นอน

กีฬาแบดมินตัน

แบดมินตันถูกพูดถึงในเชิงที่เป็นกีฬาที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่ แถมคนยังมองเห็นเบสบอลอยู่ในระดับที่สูงและโดดเด่นกว่า แต่มันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬาเหมือนกัน คนเล่นมีความรัก มีความสนุกกับมันได้เหมือนๆ กัน อย่างตัวแฮคังเอง

ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักในกีฬาชนิดนี้ เขาเองก็เคยเล่นแบดมินตันมาก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปเล่นเบสบอล การต้องการกลับมาเล่นอย่างไม่เต็มใจก็อาจจะมีงอแงไปบ้าง แต่เมื่อได้พบกับเพื่อนร่วมทีมที่ดี มันทำให้ความรักในแบดกลับคืนมาสู่หัวใจของเขาอีกครั้ง

การนำเสนอแง่มุมต่างๆ

ซีรีส์พูดถึงแง่มุมที่แตกต่างกันไปของนักกีฬาแต่ละคน บางคนมีพ่อแม่เป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จในอดีตและอาจไขว่คว้าความฝันจนแทบไม่มีเวลาให้ลูก บางคนอาจมีพ่อที่ไม่เคยสนับสนุนการเป็นนักกีฬาแบดมินตันของลูก คอยคัดค้านตลอดมา บางคนอาจมีพ่อที่เป็นใหญ่เป็นโตในสังคม

พยายามทุกวิถีทางที่จะให้ลูกเลิกสนใจแบดมินตัน โดยไม่รู้ว่าที่เขาเลือกมาเล่นเพราะเขาอยากมีเพื่อน และอีกหลากหลายมุม ที่ทำให้เราเห็นว่า คนบนโลกนี้ มีครอบครัวที่มองกีฬาชนิดแตกต่างกันไป ซึ่งก็อาจมีสักมุมที่ตรงกันกับเรา

ไม่พอยังพูดถึงแง่มุมต่างๆ ของคนเป็นโค้ชด้วย โค้ชเองก็มีปัญหาส่วนตัว เพราะโค้ชเองก็เป็นมนุษย์ มีครอบครัว มีภาระการเงิน มีลูกที่ไม่เข้าใจตน แต่ทุกอย่างที่ดูเป็นปัญหาก็จะนำพาความหนักอึ้งมาให้เราแค่ช่วงหนึ่ง จากนั้นมันก็ถึงเวลาคลี่คลาย

โดยรวม

เรื่องราวในซีรีส์ แร็กเก็ต บอยส์ ก็เป็นไปตามที่หลายคนพูดถึง มันเป็นซีรีส์ฟีลกู้ดที่เกี่ยวกับกีฬา หลายสิ่งในนั้นสร้างเสริมกำลังใจให้กับหลายคนที่อาจมีชีวิตคล้ายๆ กันกับตัวละคร บางคนอาจมีชีวิตที่หันเห จากที่เคยมีกินมีใช้ ต้องระหกระเหินไปต่างถิ่น

หรือต้องประหยัดเพื่อจะได้มีกินในวันพรุ่งนี้ จากคนที่อาจไร้จุดมุ่งหมาย การเดินทางไปยังที่ใหม่ผู้คนกลุ่มใหม่ อาจสร้างแรงบันดาลใจให้กลับมาสู้อีกครั้ง การที่นักกีฬามาอยู่รวมๆ กัน แต่ละคนที่ต่างที่มา มีชีวิตและความคิดที่แตกต่าง อาจช่วยดูแลและส่งเสริมให้อีกคนได้มีแรงกำลังและเติบโตได้

ซีรีส์ที่บางตอนชวนขำคิกคัก แต่ตอนถัดมากลับมีน้ำตาคลอ บางช่วงอาจชวนอบอุ่นใจ กีฬาที่ดูเหมือนง่าย เป็นกีฬาที่คนไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่ก็เป็นกีฬาที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุด แค่มีลูกขนไก่ ไม้แบดสองอันและสนามหลังบ้านหรือถนนในหมู่บ้านก็เล่นได้แล้ว

สรุป

จัดว่าเป็นซีรีส์ฟีลกู้ดอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ มีตัวละครมากมายเดินกันขวักไขว่คอยช่วยกันแต่งเติมเรื่องราว บางตัวก็อาจจะมาเป็นเหมือนตัวประกอบในตอนต้นๆ ซึ่งก็เชื่อว่า น่าจะมีบทบาทสำคัญในสักตอนถัดๆ ไป บางตัวก็อาจจะไม่ได้ถูกพูดถึง เพราะถ้าเขียนถึงหมด คงไม่มีใครอ่านจนจบกันพอดี