รีวิว Tom and Jerry - ทอม แอนด์ เจอร์รี่
ภาพยนตร์แนวตลกเจ็บตัวไลฟ์แอ็คชั่นผสมอนิเมชั่นไฮบริดสองมิติ สร้างจากภาพยนตร์การ์ตูนสั้นในปี 1940 ชื่อเดียวกันที่สร้างโดย แฮนนาห์ และโจเซฟ บาบีร่า กำกับโดย ทิม สตอรี่ และ เควิน คอสเตลโล รับหน้าที่เขียนบท นำแสดงโดย โคลอี เกรซ มอเรตซ์ ไมเคิล เพนญ่า โคลิน จอสต์ พาลลาวี ชาร์ดา และ เคนจอง ได้เสียงที่อัดไว้ก่อนเสียชีวิตของ แฮนนาห์ บาบีร่า เมล บลานซ์ จูน โฟเรย์ ให้เสียงพากย์ของทอมและเจอร์รี่ สตูดิโอสร้างโดย วอร์เนอร์ บราเธอร์ อนิเมชั่น รีวิว Tom and Jerry
เรื่องย่อ
เมื่อ เจอร์รี่ ย้ายไปอยู่ที่โรงแรมที่หรูหราที่สุดในมหานครนิวยอร์ก ณ ช่วงเวลาที่กำลังจะมีพิธีการแต่งงานสำคัญ เป็นเหตุให้ผู้จัดงานจำเป็นต้องจ้าง ทอม มาเพื่อกำจัดเขาให้ออกไปให้พ้นตา เกิดเป็นสงครามระหว่างแมวกับหนู
ที่อาจทำลายอาชีพการงานของผู้จัดงานคนนั้น ไปจนถึงพิธีแต่งงาน และชื่อเสียงอันโด่งดังของโรงแรม แถมสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่เมื่อมีพนักงานอีกหนึ่งคนที่พยายามเข้ามาเติมเชื้อเพลิงให้กับความวุ่นวายระหว่างพวกเขา
ภาพยนตร์แนวตลกเจ็บตัวไลฟ์แอ็คชั่นผสมอนิเมชั่นไฮบริดสองมิติ สร้างจากภาพยนตร์การ์ตูนสั้นในปี 1940 ชื่อเดียวกันที่สร้างโดย แฮนนาห์ และโจเซฟ บาบีร่า กำกับโดย ทิม สตอรี่ และ เควิน คอสเตลโล รับหน้าที่เขียนบท นำแสดงโดย โคลอี เกรซ มอเรตซ์ ไมเคิล เพนญ่า โคลิน จอสต์ พาลลาวี ชาร์ดา
และ เคนจอง ได้เสียงที่อัดไว้ก่อนเสียชีวิตของ แฮนนาห์ บาบีร่า เมล บลานซ์ จูน โฟเรย์ ให้เสียงพากย์ของทอมและเจอร์รี่ สตูดิโอสร้างโดย วอร์เนอร์ บราเธอร์ อนิเมชั่น แผนกการสร้างภาพยนตร์อนิเมชั่นของวอร์เนอร์ บราเธอร์ พิคเจอร์
โดยเข้าฉายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ในประเทศไทย และในอเมริกาวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พร้อมกับให้ดูใน HBO MAX บริการฉายสตรีมมิ่งเป็นระยะเวลา 1 เดือน เฉพาะของอเมริกา ซึ่งประเทศไทยเราได้ดูก่อน ตามหลังบราซิลและอินเดียอีกที
นับตั้งแต่ William Hanna และ Joseph Barbera หรือที่รู้จักกันในชื่อ Hanna-Barbera ให้กำเนิดแฟรนไชส์การ์ตูนอย่าง Tom and Jerry มาตั้งแต่ปี 1940 ถึงถ้านับเป็น พ.ศ. ก็คือปี พ.ศ. 2483 ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยความคลาสสิกของเนื้อเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรนอกจาก “ แมววิ่งไล่จับหนู ”
แต่ดันเป็นแมววิ่งไล่จับหนูที่ขายมุกแบบที่เรียกกันว่า Slapstick comedy คือเป็นพวกมุกตลกอุปกรณ์ มุกเจ็บตัว มุกผิดพลาด ต่าง ๆ นานา ที่พลิกแพลงไหลลื่นไปได้เรื่อย ๆ มันก็เลยทำให้การ์ตูนเรื่องนี้กลายเป็นการ์ตูนที่อยู่คู่มาทุกยุคทุกสมัย มีสปินออฟ แตกภาคใหม่ มีตัวละครมาเสริมเพิ่มความป่วนในรูปแบบการ์ตูน หรือแม้แต่ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็ก (Tom and Jerry Kids) ก็เคยมีมา
แน่นอนครับว่า ในเวอร์ชันภาพยนตร์ก็เคยมีมาแล้วเหมือนกัน ซึ่งในเวอร์ชันภาพยนตร์นั้นมีมาแล้ว 14 ภาค ภาคแรก (Tom and Jerry: The Movie) ฉายมาตั้งแต่ปี 1993 โน่น แน่นอนว่าคนไทยอาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับการผจญภัยของเจ้าแมวทอม กับเจ้าหนูเจอร์รี่ในเวอร์ชันภาพยนตร์กันสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่า 14 ภาคก่อนหน้านั้น ก็ยังเป็นเพียงแอนิเมชันสปินออฟที่จับเอานิทาน หนังดัง นิยายดังแล้วให้ทอมไปวิ่งไล่จับเจอร์รี่ในนั้นซะมากกว่า
เนื้อเรื่องในปี 2021 นี้
แต่ทอมแอนด์เจอร์รี่ เวอร์ชันปี 2021 นี้ ถือว่าเป็นเวอร์ชันแรกในโลกที่ผสมผสานแอนิเมชันสามมิติกับคนแสดงเข้าไว้ด้วยกันครับ เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยเจ้าหนู “เจอร์รี่” ที่มีโอกาสย้ายเข้าไปอยู่ในโรงแรมสุดหรูใจกลางนิวยอร์ก ที่กำลังจะกลายเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานสำคัญใหญ่โตของเซเลบริตีคนสำคัญ
ให้บังเอิญจังหวะเดียวกันกับ “เคย์ลา” (Chloë Grace Moretz) สาวเจนวายเจ้าเล่ห์แต่ตกอับที่เพิ่งจะตกงานจากร้านซักรีดมาหยก ๆ ได้มีโอกาสใช้ความเจ้าเล่ห์เพทุบาย จนได้มีโอกาสเข้าไปเป็นพนักงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้ดูแลงานอีเวนต์งานแต่งงานสำคัญนี้โดยเฉพาะ
จนกระทั่งเธอได้ไปเจอกับเจอร์รี่ ที่ไม่ใช่แค่มาอยู่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมาป่วนโรงแรม ขโมยของ ขโมยอาหารสารพัดไปสร้างวิมานรูหนูของตัวเองซะงั้น จนกระทั่งเธอได้ไปเจอและมีโอกาสจ้าง “ทอม” แมวคู่ปรับตลอดกาลมารับหน้าที่กำจัดเจอร์รีออกไปให้พ้น เพื่อไม่ให้งานแต่งงานสำคัญ และชื่อเสียงของโรงแรมต้องมีอันต้องพังพาบไปเสียก่อน
การดำเนินเรื่อง
สิ่งที่หลายคนน่าจะห่วงกัน ในฐานะของหนังไลฟ์แอ็กชันที่เอาแอนิเมชันคลาสสิกขึ้นหิ้งที่คนทั้งโลกชื่นชอบมาสร้างก็คือ จะทำได้ถึงไหม จะคงกลิ่นอายความเป็นต้นฉบับไว้ได้แค่ไหน จะมีปัญหาว่า จากการ์ตูน 2D พอเอามาขึ้นเป็น 3D มักจะเกิดอาการ “ไม่ตรงปก” เหมือนในแอนิเมชันหลาย ๆ เรื่องหรือไม่
ซึ่งก็ต้องขอบอกเลยครับว่าดูหนังออนไลน์ Tim Story ผู้กำกับ (ที่แอบไปรับบทเจ้านกพิราบในเรื่องด้วย) สามารถเก็บรักษากลิ่นอายของความเป็นต้นฉบับเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน เอาตั้งแต่คาแรกเตอร์ทอมและเจอร์รี่ในรูปแบบ 3D ที่ทำออกมาได้ดูดีและไม่ผิดจากต้นฉบับ 2D มาก
ยังคงเอกลักษณ์
จนไปถึงแต่ละฉากที่ทั้งคู่ต้องวิ่งไล่จับกัน (ก็แหง นี่มันทอมแอนด์เจอร์รี่ 555) ก็ยังคงเอกลักษณ์มุก Slapstick เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน คือตอนเปิดเรื่องมาก็มีฉากวิ่งไล่จับกันให้ดูก่อนเลย 1 ยก แถมยังแทบจะไม่เกี่ยวกับเส้นเรื่องหลักด้วยซ้ำ
เข้าใจว่าเพื่อดึงผู้ชมกลับไปสู่กลิ่นอายของความเป็นทอมแอนด์เจอร์รี่ที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนในเนื้อเรื่อง ก็สามารถเอากลิ่นอายวิ่งไล่จับสไตล์ทอมแอนด์เจอร์รี่ มาผสมผสานและต่อยอดให้เล่นใหญ่ขึ้น มีฉากที่ไม่ใช่เพียงบ้านเล็ก ๆ
แต่เป็นโรงแรมทั้งโรงแรม และในเมืองนิวยอร์กแทบทั้งเมือง โดยใช้โลเกชันและพรอปต่าง ๆ เอามาคิดต่อยอดกลยุทธ์ไล่จับได้สนุกสนาน ตอนท้าย ๆ เรื่องนี่ถึงขั้นมีสเก็ตบอร์ดและโดรนมาเข้าฉากด้วย!
พล๊อคเรื่องต่างๆ
อีกเรื่องที่ไม่ชื่นชมไม่ได้คือเรื่องพล็อตครับ ต้องบอกเลยว่า เป็นพล็อตหนังฟีลกู้ดที่ดูแล้วฟีลกู้ดจริง ๆ ดีต่อใจมาก ๆ โดยเฉพาะการหยิบเอาประเด็นเรื่อง “โอกาส” และ “การพิสูจน์ตัวตน” ของน้องเคย์ลา หรือน้องโคลอี ที่ต้องรับบทเป็นสาวน้อยตกงานที่ซีรี่ย์ Netflix ไม่ค่อยได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวตน รวมไปถึงเรื่องราวของความรักของคู่รักเซเลบฯ กับความรักที่เกิดปัญหาเพราะไม่ยอมที่จะหันมาฟังกันบ้าง
จุดชื่นชม
ที่ต้องชื่นชมเป็นอย่างมากนอกจากการเคารพและต่อยอดจากการ์ตูนต้นฉบับแล้ว อีกสิ่งที่ต้องพูดถึงก็คือบทและการวางพล็อตที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมครับ โดยเฉพาะการออกแบบมุกที่มีกิมมิกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ได้ฮาเล็ก ฮาใหญ่สลับกันไป เป็นมุกที่แทรกเอาไว้ได้อย่างพอดีพอเหมาะ
และที่สำคัญที่สุดคือ เป็นการวางพล็อตแบบ “ปู-ชง-ตบ” แอบวางพล็อตไว้ตรงไหน พล็อตก็ตามมาเก็บกลับได้อย่างฮามาก ๆ เรียกว่าเป็นหนังที่เสียพลังงานไปกับการฮาตลอดเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ
ด้านนักแสดง
ในส่วนของนักแสดงนำอย่าง โคลอี้ เกรซ มอเรซ แสดงเป็นหญิงสาวที่ดูไม่มีอะไรแต่ไม่มีอะไรได้สมกับฝีมือ แถมไม่รู้สึกขัดตาเวลาอยู่กับตัวละครสัตว์ เธอสามารถใช้จินตนาการให้ตัวการ์ตูนสัตว์ที่อยู่กับเธอ มีตัวตนจับต้องอย่างสมจริง
ซึ่งนักแสดงที่ทำแบบนี้ได้ต้องมีฝีมือมาก ๆ ในซีนอารมณ์ หรือซีนมีแผน เจ้าเล่ห์ สนุกสนานของเธอก็มีเสน่ห์ชวนให้มองตลอดทั้งเรื่อง เช่นเดียวกับ ไมเคิล เพนญ่า ที่สลัดลุคฮา มาเป็นลุคโหด แต่มันก็ไปไม่รอดเพราะหนังตั้งใจให้พี่แกมาโดนแมวและหนูป่วนประสาทจนแทบคลั่ง
และยังสามารถเล่นใหญ่ได้อย่างไม่ติดขัด น่าเสียดายก็แต่เคนจองที่ออกมาเพื่อขโมยซีน แล้วก็ไม่มีบทบาทสำคัญอะไร แต่ที่ดีมาก ๆ คือ โคลิน จอสต์ และ พาลลาวี ชาร์ดา ในบทสองสามีภรรยาที่แสดงได้อย่างมีเคมีลงตัว
แถมยังมีซีนดราม่าเรียกน้ำตาระดับหนังรักโรแมนติกเลยทีเดียว เพราะแบบนี้ดนตรีจึงเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนอารมณ์และเรื่องราว โดยดนตรีของเรื่องจะเป็นสไตล์ป๊อบฮิปฮ็อบยุคเก่า ๆ ซึ่งความพิเศษคือ ทิม สตอรี่รับหน้าที่ร้องเพลงเอง ร่วมกับนักร้องคนอื่น ๆ ด้วย
แหม เหมาหมดเลยนะครับคุณผู้กำกับ ผู้ประพันธ์เพลงอย่าง คริสโตเฟอร์ เลนเนิร์ตซ ก็สามารถหยิบเอากิมมิคจากต้นฉบับมาบิดให้เป็นร่วมสมัยและเพิ่มความสนุกได้อย่างไม่ติดขัดเลย เพราะหนังไม่จำเป็นต้องเหมือนการ์ตูนไปทั้งหมด แต่หยิบกิมมิคมาใช้ได้อย่างชาญฉลาดก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ด้านงานสร้าง
งานสร้างทำให้ภาพระหว่างสองมิติกับสามมิติเข้ากับสภาพแวดล้อมกลมกลืนไป เพราะในตัวอย่างมันเหมือนว่าเราจะไม่ชินตากับงานภาพการ์ตูน แต่ในหนังมันจะปรับให้เลย ไม่ว่าตัวละครจะสัมผัสกับสิ่งไหนมันก็จะเหมือนว่าตัวละครเหล่านั้นกำลังแตะต้องหรือถูกแตะต้องอยู่จริง ๆ
แม้ว่าเราจะรู้ว่ามันไม่ใช่ของจริง เป็นงานซีจี แต่มันเป็นไปได้ในโลกของภาพยนตร์และมีกลิ่นอายเดิมครบถ้วน อะไรที่เคยเห็นในการ์ตูน พอออกมาอยู่บนจอเงิน ก็สามารถทำให้เรามันเป็นเพียงสัตว์ที่ใช้ชีวิตแบบสัตว์ที่เป็นแบบ 3 มิติ จริง ๆ ต้องยกเครดิตให้กับ ทิม สตอรี่ ที่เล็งเห็นความสำคัญของการยึดถือต้นฉบับ
และการเขียนบทที่มีรายละเอียดอย่าง เควิน คอสเตลโล ที่สามารถเล่าบทของทอมแอนด์เจอร์รี่ในโลก 3 มิติ ทั้งมุกต่าง ๆ จังหวะ และความเล่นใหญ่แบบการ์ตูนไม่จางหายไป แถมยังทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าที่ในการ์ตูนสั้นให้เราอีก พอต้นฉบับมันดีแล้วยิ่งทำให้มันโดดเด่น
เชื่อว่าแฟนหลายคนที่ได้ดูคงหมดข้อสงสัยเรื่องงานภาพ เพราะในตัวอย่างทำเหมือนว่าก็แค่นี้ แต่จริง ๆ มันไม่ได้มีแค่นี้ แต่ผมไม่ขอพูด เพราะมันใหญ่มาก และงานซีจีสองมิติก็ไม่ใช่ที่ควรประเมินค่าต่ำกว่าที่มันเป็นเพราะมันทำให้กลมกลืนก็ทำได้เช่นเดียวกัน
สรุป
ถือว่าเป็นม้ามืดและยุคใหม่ของไลฟ์แอ็คชั่นค่ายวอร์เนอร์เลยทีเดียว หลังจากที่ต้องซบเซามาเป็นเวลา 18 ปี นับตั้งแต่ ลูนี่ย์ ทูนส์ รวมพลพรรคผจญภัยสุดโลก (Looney Tunes: Back in Action) ออกฉายเมื่อปี 2003 นี่จึงเป็นภาพยนตร์ตลกแห่งปีที่ควรจูงครอบครัวไปดูในวันหยุดมาก ๆ
เพราะดูได้ทุกเพศทุกวัย สนุกสนาน ไม่ต้องคิดเยอะให้ปวดหัว ยิ่งถ้าชอบทอมแอนด์เจอร์รี่อยู่แล้ว คุณจะชอบมันมาก ๆ มันเป็นหนังไลฟ์แอ็คชั่นที่สามารถแตกแขนงตัวเองให้เป็นหนังตลกครอบครัวที่แสนอบอุ่นโดยยังมีทอมกับเจอร์รี่อยู่ในเรื่อง
ทั้งยังดึงเสน่ห์ของต้นฉบับและขับเน้นให้มันมาอยู่ในจอเงินอย่างไม่มีผิดเพี้ยนและยกระดับให้ดีกว่าที่มันเคยเป็น มุกตลกขำ ๆ บทภาพยนตร์ที่น่าประทับใจในประเด็นต่าง ๆ และการได้เห็นตัวการ์ตูนออกมาโลดแล่นในโลกความเป็นจริงในภาพยนตร์ก็อาจเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นในยุคที่มีแต่ความวุ่นวายของโลก
ลองใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมง เข้าไปดูเรื่องนี้ในโรงแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน คุณจะได้กลับไปรู้สึกเหมือนตอนดูทอมแอนด์เจอร์รี่ทุกครั้งที่ได้กลับเข้าไปในโลกในวันเด็กให้คุณหวนนึกถึง และแม้จะยังไม่คอนเฟิร์ม
แต่ถ้ากระแสดี ทิม สตอรี่บอกว่าเราอาจจะได้เห็นตัวละครใหม่ ๆ มาปรากฏในภาคต่อก็ได้ ก็อยากให้ทำรายได้ทั่วโลกเยอะ ๆ นี่จะไม่มีความผิดหวังหรือความเศร้าให้คุณเลย ไปดูเถอะ อย่ารีบออกจากโรงล่ะ เพราะมีเอนเครดิตท้ายด้วย 1 ตัว ฮามาก ๆ
Login รวมเกมสล็อตออนไลน์ pg slot เกมสล็อตออนไลน์ที่ได้รับความนิยม เล่นง่าย ได้เงินจริง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดคุณก็สามารถเข้าถึงเกมของพวกเราได้ ผ่านหลายวิถีทาง pg slot login