Welcome To Waikiki

รีวิว Welcome To Waikiki - ไวกีกิ เกสต์เฮาส์อลเวง

กลับมาแล้ว! ซีรี่ย์เกาหลีที่เรียกเสียงฮาระดับห้ากะโหลก ใครที่เบื่อเอียนกระแสดราม่าลองเปลี่ยนรสชาติกับซีรี่ย์แนวขำเรี่ยราดแบบนี้ดู เป็นซีรี่ย์แนวคอมเมดี้ที่ขยันแจกมุกมากๆ ความคิดสร้างสรรค์ในการคิดมุกของทีมผู้สร้างก็ต้องยอมรับว่าล้ำลึกจริงๆ บางมุกก็คาดไม่ถึงชนิดที่อยากถามเลยว่าคิดนานมั้ย รีวิว Welcome To Waikiki

เรื่องย่อ

คังดงกู (รับบทโดย คิมฮยองจอน) ชายหนุ่มที่ฝันอยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แต่เป็นคนที่ประสบพบแต่โชคร้ายตลอดเวลา ชอนจุนกิ (รับบทโดย จีจินฮี) ชายหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากประสบความสำเร็จในการเป็นนักแสดงแบบพ่อของเขาเอง

แต่ทุกวันได้แต่บทเล็ก ๆ และ บงดูซิก (รับบทโดย ซอนซึงวอน) อยากเป็นคนเขียนบทแต่ทุกสิ่งรอบตัวมันไม่เป็นใจกับเขาเสียเลย ทั้งสามหนุ่มเปิดบ้านเกสตเฮ้าส์ที่ชื่อว่า “ไวกิกิ” แต่มันกำลังจะถูกแบงค์ยึด แล้วจู่ ๆ ก็มีเด็กเบบี้พร้อมสาวลึกลับนางหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่บ้านเกสต์เฮ้าส์หลังนี้

---

ถ้าใครได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็จะรู้ว่าเรื่องย่อมันไม่ได้จบแค่ข้างบนหรอก เพราะว่าที่จริงแล้ว เกสต์เฮาส์แห่งนี้ยังมีสาวอีกคนหนึ่งร่วมก่อความอลเวงด้วย นั่นคือ ยุนอา (Jung In-Sun จากซีรีส์ My Secret, Terrius และ Psychopath Diary) เธอคือแม่ของเด็กน้อยที่อยู่ดีๆ ก็เข้ามาอยู่ในเกสต์เฮาส์นั่นแหละ

ไปๆ มาๆ เธอก็กลับกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ร่วมทำงานในไวกีกิ เป็นเชิงแม่บ้านแต่เพราะลูกติดเลยไม่ได้ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยสักเท่าไหร่ แถมยังขี้ลืมโก๊ะๆ กังๆ ไว้ใจไม่ค่อยได้ แต่ผมก็ว่าเธอสวยดีนะครับ มีความคล้าย อิมยุนอา เล็กๆ

เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องรีวิวกันเลยดีกว่า

หากคุณกำลังเบื่อหน่ายกับชีวิตและการงาน ไม่มีความสุขกับการอยู่ติดบ้านทุกวันเพราะต้องเว้นระยะกับผู้คนและไม่ต้องรับเชื้อจากใคร การเฟ้นหาคอนเทนต์ที่หลายหลานผัดเปลี่ยนกันไปไม่ให้จำเจ ดูหนังฟรีจึงน่าจะเป็นหนทางหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้ลองทำกันดู

เนื้อเรื่อง

สามหนุ่มเจ้าของ เกสต์เฮาส์ไวกิกิ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการตามล่าหาความฝันและความตลกโปกฮาที่เกิดขึ้น ประกอบไปด้วย คังดงกู (รับบทโดย คิมจองฮยอน) ชายหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้กำกับหนังแต่ทำไม่สำเร็จซักที

อีจุนกิ (รับบทโดย อีกีคยอง) ชายหนุ่มผู้อยากเป็นนักแสดงเหมือนพ่อของเขาเองโดยไม่อยากใช้เส้นสาย แต่ก็ได้รับแต่งานที่ไม่ค่อยจะก้าวหน้าซักเท่าไหร่

และคนสุดท้าย บงดูชิก (รับบทโดย ซอนซึงวอน) หนุ่มเนิร์ดที่รักการแต่งนิยายเป็นชีวิตจิตใจและยังไม่เคยมีความสัมพันธ์มาก่อนเลย นอกจากสามหนุ่มแล้วยังมี คังซอจิน (รับบทโดย โกวอนฮี) น้องสาวของ คังดงกู ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน

เธอเป็นผู้หญิงที่มีหนวดและใฝ่ฝันอยากเป็นนักข่าว แต่สมัครงานไม่ได้ซักที เรื่องราวเริ่มวุ่นวายขึ้นเมื่อ ฮันยุนอา (รับบทโดย จองอินซอน) สาวปริศนาที่มาพร้อมกับน้องเด็กเบบี้ ซอล (รับบทโดย ฮันยอรึม) ปรากฏตัวขึ้นมาในวันหนึ่ง

แล้วไหนจะ แฟนเก่าของ คังดงกู ที่เพิ่งเลิกรากันไปอย่าง มินซูอา (รับบทโดย อีจูอู) ที่หาเรื่องมาให้ปวดหัวกวนใจตลอดเวลา พร้อมด้วยแขกที่รับเชิญและไม่ได้รับเชิญอีกมากมาย

จุดเด่น!

การจะทำซีรีส์หนังออนไลน์แนวตลกให้ประสบความสำเร็จ จุดสำคัญที่สุดคือ มุกต้องตลกจริง ๆ ตลกมาก ๆ และตลกแล้วตลกอีกไปเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องนี้ขอยอมรับตรงนี้ว่า ตลกเรี่ยราดเลอะเทอะขำน้ำหูน้ำตาไหลอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน …

สรุปสั้น ๆ คือ ตลกจริง ๆ ด้วยการแสดงแบบโอเวอร์แอคติ้งและไม่ห่วงหล่อไม่ห่วงสวยของเหล่าทีมนักแสดง กับการเดินเรื่องแบบใส ๆ สบาย ๆ พร้อมกับฉากสีสันสดใส ทำให้การดูซีรีส์เรื่องนี้มีความสุขสำราญบันเทิงใจได้เป็นอย่างดี

แต่หากจะหาสาระความดราม่าให้พอบีบหัวใจสลับไปบ้าง อาจจะแทบไม่มีเลยในส่วนนั้น ง่าย ๆ คือเป็นละครที่เน้นความตลกเฮฮา ความบันเทิง และความคิ้วไม่ผูกโบว์แทบจะ 100% ดูแล้วไม่เครียดอะไรเลยใด ๆ ทั้งสิ้น

มีข้อคิดด้วยนะ!

นอกจากความตลกที่แจกจ่ายโปรยมาตลอดเรื่องแล้ว ก็มีข้อคิดดี ๆ แทรกอยู่ในตัวละครหลาย ๆ พาร์ท ยกตัวอย่างเช่น ความไม่ย่อท้อต่อการไปแคสต์งานของ อีจุนกิ ไม่ว่าจะถูกดูถูกหรือได้งานห่วยซักกี่ครั้ง

แต่ด้วยความที่ยึดในใจว่าจะไม่ใช้เส้นสายใด ๆ ในการหางาน และอยากที่จะประสบความสำเร็จด้วยตนเอง ตัวละครตัวนี้ก็อดทนและยอมทำอะไรให้คนมาหัวเราะใส่อยู่ตลอดเวลา (รวมทั้งคนเขียนด้วยที่หัวเราะไม่หยุดเลย 555) มองผิวเผินเหมือนเป็นคนไม่เอาไหน

แต่จากมุมมองส่วนตัว รู้สึกว่า อีจุนกิ เป็นคนจิตใจเข็มแข็งในระดับหนึ่ง มีความมุ่งมั่น และตั้งใจในการที่จะทำตามฝัน .. ควรจะเอาจุดนี้มาเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต เน้นย้ำว่า เฉพาะจุดนี้นะ จุดอื่น ๆ ในส่วนความติงต๊องและหัวโจกในการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ขอให้ดูไว้เป็นตัวอย่างว่าไม่ควรกระทำตามอย่างเด็ดขาดนะ

หรืออีกตัวอย่างที่ทำให้เราคิดตามได้ก็คือ ซีนที่ อีจุนกิ ชวน บงดูชิก ที่ต้องการใช้เงินด่วนแต่ไม่อยากทำงานหนัก ไปหาเงินเพิ่มด้วยการพนัน จนสุดท้ายที่ถึงกับไปเก็บเหรียญจากพื้นหรือขโมยเงินจากคนอื่นเพื่อไปแทงแล้วแทงอีก

แล้วก็จบทีการเสียทรัพย์จนหมดเนื้อหมดตัว มันทำให้เห็นภาพพร้อมกับขำตามว่า การพนันนอกจากจะไม่ช่วยใครแล้ว ยังมอบทุกข์แก่คนนั้นได้เร็วทันใจจริง ๆ

ด้านนักแสดง

สำหรับเหล่าทีมนักแสดงทุกคนทำได้ดีมากจริง ๆ ขออนุญาตไม่พูดถึงใครเป็นพิเศษ เพราะทำได้ดีทุกคนจริง ๆ ไม่มีใครเล่นแบบกั๊ก ๆ หรือห่วงรูปร่างหน้าตากันเลย จึงขอปรบมือให้กับความพยายามของทุกคนที่พยายามทำให้ผลงานออกมาดีที่สุด

แต่นักแสดงคนโปรดที่สุดจากเรื่องนี้ ไม่ได้วัดที่ทักษะการแสดงเลย แต่ลำเอียงให้ใจล้วน ๆ คงหนีไม่พ้น น้องเบบี้ ซอล รับบทโดย ฮันยอรึม น้องน่ารักน่าหยิกน่าหอมแก้มที่สุด

และต้องยอมรับว่าน้องเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ละครเรื่องนี้มีความอบอุ่นหัวใจมาก ๆ ได้เดบิวต์ตั้งแต่อายุเท่านี้ อนาคตคงน่าจะไปได้อีกไกลนะ เอาใจช่วย สู้ สู้ !!

สรุป

จริงๆ จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ยังเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของความน่ารักของซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากความฮาอย่างไม่จำกัดของมุกต่าง ๆ แล้ว ยังมีน้องเบบี้ ซอล สุดน่ารักจ้ำม่ำมาให้เราหมั่นเขี้ยวกันตลอดเรื่อง แล้วยังเพิ่มเติมความกุ๊กกิ๊กของแต่ละคู่มาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจด้วยอีก

ทิ้งท้ายด้วยข้อความดี ๆ จากในซีรีส์เรื่องนี้อีกหนึ่งข้อความ

“ถ้าเราเห็นคนคนนั้นเจ็บ เราเจ็บกว่า ต่อให้เราต้องเจ็บตัว เราก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนคนนั้น ขอแค่คนคนนั้นแข็งแรงและยังมีชีวิตอยู่ เราก็มีความสุขและรู้สึกขอบคุณมากแล้ว … ความรักมันก็แค่นี้ไม่ใช่เหรอ?”